เรือนไทยภาคอีสานเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมาะกับสภาพภูมิอากาศในท้องถิ่น เรือนไทยภาคอีสานมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและโครงสร้างที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในครอบครัว ฐานะทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น โดยทั่วไปแล้ว เรือนไทยภาคอีสาน มักจะเป็นเรือนใต้ถุนสูงยกพื้นประมาณ 1-2 เมตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมและยังช่วยให้บ้านเย็นสบาย
โครงสร้างของเรือนไทยภาคอีสานจะประกอบด้วยส่วนหลักๆ ดังนี้:
เสา: เสาเรือนไทยภาคอีสานมักทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ตะเคียน ไม้ชัยพฤกษ์ หรือไม้ประดู่ เสาเรือนจะถูกฝังลงในดิน หรือตั้งบนตอหม้อ
คาน: คานเรือนไทยภาคอีสานมักทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่นเดียวกับเสา คานจะวางพาดขวางบนเสา เพื่อรองรับโครงสร้างของหลังคา
แป้น: แป้นเรือนไทยภาคอีสานมักทำจากไม้ไผ่ หรือไม้เนื้ออ่อน แป้นจะวางพาดขวางบนคาน เพื่อรองรับหลังคา
หลังคา: หลังคาเรือนไทยภาคอีสานมักทำจากหญ้าคา สังกะสี หรือกระเบื้อง หลังคาจะมีลักษณะเป็นจั่ว เพื่อช่วยให้น้ำฝนไหลลงได้สะดวก
ผนัง: ผนังเรือนไทยภาคอีสานมักทำจากไม้ไผ่สาน ไม้ฟาก หรือไม้กระดาน ผนังจะไม่ติดกันสนิท มีช่องลมเพื่อระบายอากาศ
พื้น: พื้นเรือนไทยภาคอีสานมักทำจากไม้ไผ่สาน หรือไม้กระดาน
ระเบียง: เรือนไทยภาคอีสานมักมีระเบียงใต้ถุน ไว้สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน หรือต้อนรับแขก
นอกจากส่วนหลักๆเหล่านี้แล้ว เรือนไทยภาคอีสานยังมีส่วนประกอบอื่นๆอีก เช่น:
ชาน: ชานเป็นพื้นที่ยื่นออกมาจากตัวเรือน มักใช้สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน หรือตากผ้า
ครัว: ครัวมักอยู่แยกจากตัวเรือน เพื่อป้องกันไฟไหม้
ยุ้งฉาง: ยุ้งฉางใช้สำหรับเก็บข้าวเปลือก หรือพืชผลทางการเกษตร
เล้าหมู: เล้าหมูใช้สำหรับเลี้ยงหมู
ส้วม: ส้วมมักอยู่แยกจากตัวเรือน เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็น
การสร้างเรือนไทยภาคอีสาน มักอาศัยแรงงานจากคนในชุมชน โดยมีช่างผู้ชำนาญการเป็นผู้ควบคุมดูแล การสร้างเรือนไทยภาคอีสานจะเริ่มจากการเตรียมพื้นที่ ขุดหลุมฝังเสา วางคาน แป้นและหลังคา จากนั้นจึงทำผนัง พื้น ระเบียง ชาน ครัว ยุ้งฉาง เล้าหมูและส้วม
เรือนไทยภาคอีสาน เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ล้ำค่า สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี และภูมิปัญญาของชาวอีสาน เรือนไทยภาคอีสานยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวอีสาน หลายแห่ง และได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว